วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558

บันทึกประจำวันครูกศน.ตำบล

วันนี้ได้นำเช็คไปให้วิทยากรทักษะชีวิต และเข้ากศน.อำเภอเมืองลำปางทำสรุปโครงการปี58 ในแต่ละงานกรอกในแบบรายงาน ยังไม่เสร็จ ต้องรับชมรายการการถ่ายทอดETVรับฟังนโยบายของรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมคณะข้าราชการครูและครูทุกประเภท โดยการนำของอาจารย์ยุรัยยา        อินทรวิจิตร  หัวหน้ากลุ่มจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
        นายดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ  รัฐมนตรีว่าการทรวงศึกษาธิการ  ให้นโยบายดังนี้
        ทัศนคติในการทำงาน     กระแสพระราชดำรัสเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
          “ให้ครูรักเด็กและเด็กรักครู”
          “ให้ครูสอนเด็กให้มีน้ำใจต่อเพื่อน ไม่ให้แข่งขันกัน แต่ให้แข่งกับตัวเอง ให้เด็กที่เรียนเก่งกว่า ช่วยสอนเพื่อนที่เรียนช้ากว่า”
          “ให้ครูจัดกิจกรรมให้เด็กทำร่วมกัน เพื่อให้เห็นคุณค่าของความสามัคคี”
นโยบายนายกรัฐมนตรี
1) ทำให้เร็ว มีผลสัมฤทธิ์ภายใน ก.ย.๕๙ ให้มากที่สุด ที่เหลือส่งต่อให้รัฐบาลต่อไป
2) ประชาชน สังคมพึงพอใจ ประเทศได้คนมีคุณภาพ
3) ปรับ ลดภาระงานที่ไม่จำเป็นของ ศธ. ลง
4) เร่งปรับหลักสูตร/ตำรา แต่ละกลุ่มให้เหมาะสม การพิมพ์ตำรา ต้องคุ้มราคา
5) ผลิตคนให้ทันกับความต้องการของประเทศ จบแล้วต้องมีงานทำ เข้าทำงาน AEC
ให้ทันปีนี้ ช่วยแก้ไขปัญหาว่างงาน และปัญหาสังคมได้
6) ปรับหลักสูตรทำให้เด็ก ครู ผู้ปกครองมีความสุข
7) ใช้สื่อการสอน กระตุ้นผู้เรียนเพื่อสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้กับเด็ก
8) ลดความเหลื่อมล้ำ จัดการศึกษาให้ทั่วถึง เท่าเทียม และมีคุณภาพ
9) นำระบบ ICT เข้ามาใช้จัดการเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรมและกว้างขวาง
10) เรียนไม่ใช่เพื่อสอบ แต่เรียนให้ได้ทักษะชีวิต อยู่ในยุคโลกไร้พรมแดน

นโยบาย
1. การจัดทำแผนงานโครงการเริ่มใหม่ทั่วไป
         ต้องเข้าใจจุดหมายว่าทำเพื่ออะไร  ต้องวาดภาพงาน ลงในรายละเอียดให้เห็นว่าอะไรคืองานหลักแล้วมีงานรองอะไรบ้างที่ต้องทำเพื่อให้บรรลุงานหลัก อะไรที่ต้องทำก่อน อะไรที่ต้องทำที่หลัง
        ต้องมีฐานข้อมูลที่แน่น เช่น จะผลิตนักศึกษาอาชีวะ ต้องรู้ว่าตลาดต้องการสาขาอะไรบ้างแต่ละสาขา ต้องการกี่คน ฐานข้อมูลที่ดีจะทำให้การวิเคราะห์ แม่นยำ
2. การปรับปรุงแผนงาน/โครงการเดิมที่ไม่สัมฤทธิ์ผล
     หาปัญหาที่ผ่านมาทำไมทำไม่สำเร็จ เช่น ปัญหาอยู่ที่อายุของนักเรียน ปัญหาอยู่ที่ครู ปัญหาอยู่ที่พ่อแม่ ปัญหาอยู่ที่สภาวะแวดล้อม เพราะบางครั้งไม่สามารถแก้ได้ด้วยวิธีใดวิธีเดียว
  แผนงาน/โครงการพระราชดำริ
 โครงการอะไรบ้างที่กระทรวงศึกษาเกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบโดยตรง
โครงการไหน เป็นดำริของพระองค์ใด ทำแล้ว และกระทรวงศึกษาให้การสนับสนุนอย่างไร
งบประมาณ
โดยเฉพาะงบลงทุน ให้วางแผนโครงการในงบลงทุนในไตรมาสแรกมาเลย
การเสนองบกลางให้เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น
การทำแผนงานโครงการบางอย่างไม่ต้องใช้งบประมาณใช้งบปกติที่ได้รับ
ใช้การปรับแผนงานที่ไม่ได้ผลสัมฤทธิ์
โปร่งใส ตรวจสอบได้
 ในงานบางโครงการต้องมีการบูรณาการ
งบประมาณข้ามแท่ง ก่อนไปบูรณาการ
กับสำนักงบประมาณ
1) จัดให้มีช่องทางการสื่อสาร อย่างเป็นระบบ นำ เทคโนโลยีเข้ามาช่วย (การประชุมทางไกล โปรแกรม ไลน์ ฯลฯ) เพื่อใช้ในการ
     - สร้างความเข้าใจในองค์กร
     -  สามารถถ่ายทอดคำสั่งไปยังหน่วยรองได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว
     -  การรายงานเหตุการณ์ ได้อย่างรวดเร็ว
2) ทุกหน่วยต้องจัดให้มีแผนการประชาสัมพันธ์
        -  เสมาสนเทศ
        -  ประชาสนเทศ
6. อำนวยการเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
เช่น การเกิดอุบัติเหตุในโรงเรียน/ นอกโรงเรียน, ผู้บริหารถูกกล่าวหา, การรวมตัวกันต่อต้านผู้อำนวยการโรงเรียน นักเรียนปวดท้องอาเจียนยกชั้น โรงเรียนถูกขู่วางระเบิด เกิดวาตภัย ฯลฯ ให้ทุกหน่วยไปกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติ    (อาจจะมีอยู่แล้วให้ไปปรับปรุง หรือ ทำการซักซ้อม) อย่างน้อยต้องมีรายละเอียด
- ใครต้อง Take Action
- การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ระยะสั้น และระยะยาวทำอย่างไร
- การรายงานด่วน ฯลฯ
7. การร่วมมือกับภาคเอกชนและภาคประชาสังคม
         ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมให้ครบวงจร เช่น เข้ามาร่วมกำหนดหลักสูตร
         การรับนักเรียนเข้าไปทำงานขณะที่ยังศึกษาอยู่ การรับนักเรียนเมื่อจบการศึกษา เข้าทำงาน
8. จะให้ความสำคัญ กับการบริหารงานส่วนภูมิภาคและเขตพื้นที่ต่างๆ ของแต่ละแท่ง
           ทบทวนบทบาทหน้าที่
           สิ่งใดที่ต้องรู้ และยังไม่รู้
           สิ่งอำนวยความสะดวกพอเพียงหรือไม่
9. โครงการจัดอบรมสัมมนา ต้องตอบโจทย์ที่ตั้งไว้ ใครควรเข้าร่วมการ สัมมนาผลลัพธ์ที่ต้องการ เนื้อหาต้องสัมพันธ์
10. ยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษในทุกหลักสูตร
11. ให้มีการนำ ICT เข้ามาใช้ในการบริหารงานในกระทรวงอย่างกว้างขวาง เช่น
     ปัจจุบันได้ดำเนินการศูนย์ศึกษาทางไกล (DL ไทยแลนด์) ให้บูรณาการเข้ากับสถานีวิทยุเพื่อการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ ( ETV) และเครือข่ายของอุดมศึกษาโดยใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารเพื่อ
     1) ใช้ในการจัดการศึกษา
     2) ใช้ในการเสมาสนเทศ
     3) ใช้ในการประชาสนเทศ
12. ให้ความสำคัญกับเทคนิคการสอนและการสื่อความหมาย
13. ให้ความสำคัญกับเทคนิคการสอนและการสื่อความหมาย
       ให้ความสำคัญกับธงชาติ
       ความสะอาดในพื้นที่รับผิดชอบทุกระดับในเขตพื้นที่
       การรักษาความปลอดภัย
        แผนเผชิญเหตุ
14.ให้ลดภาระงานที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนการสอนของครู เพื่อให้ครูมีเวลาทุ่มเทให้กับการเรียนการสอนของนักเรียนอย่างจริงจัง
15. การประเมินเพื่อความก้าวหน้าต้องสอดคล้องกับผลการพัฒนาผู้เรียน ทั้งความรู้และคุณลักษณะและทักษะชีวิต
16. การแก้ไขปัญหาการจัดการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ อาทิเช่น - โครงการเร่งรัดการขับเคลื่อนตามแผน จชต.
17. ให้ลดภาระงานที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนการสอน การนำเด็กนักเรียน ครู ออกนอกห้องเรียน - Ok ถ้าเป็นการทัศนศึกษา หรือเสริมสร้างประสบการณ์ เช่น รำอวยพร การแสดง ไม่ Ok ถ้าไปยืนต้อนรับผู้บริหาร
นโยบายด้านการปราบปรามการทุจริต
1. ห้ามการซื้อขายตำแหน่ง หรือเสียเงินเพื่อการย้ายที่
2. หน่วยงานที่มีรายได้ ขอให้ไปตรวจสอบว่ามีการทุจริตหรือไม่ หากพบ
       ดำเนินการสอบสวนหาผู้กระทำผิดและดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ ตรวจสอบช่องว่างที่ทำให้เกิดความทุจริตที่ตรวจพบนั้น ๆ และทำการแก้ไข ปรับปรุงระบบ/ระเบียบ รวมถึงมาตรการมาควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก
3. หลังจากเดือน ธ.ค. จะเริ่มมีการสุ่มตรวจ หากพบการทุจริต ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบด้วยฐานปล่อยปละละเลย
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (สำนักงาน กศน.)
สำนักงาน กศน.ดำเนินการในภารกิจ ดังนี้

     1. จัดการศึกษาเพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาและส่งเสริมให้ประชาชนที่พลาดโอกาสทางการศึกษาในระบบโรงเรียนสามารถหาความรู้ด้วยตนเองอย่างกว้างขวางและต่อเนื่อง โดยจัดการศึกษาทั้งในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อนำความรู้ไปประกอบอาชีพหรือเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และจัดกิจกรรมที่เสริมสร้างโอกาสทางการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำ โดยจัดโครงการติวเข้มเติมเต็มความรู้ เพื่อเสริมสร้าง เพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้เกิดความเท่าเทียมกันทั้งในเมืองและชนบท
     2. เร่งสร้างค่านิยมอาชีวศึกษาโดยจัดโครงการเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลายของสำนักงาน กศน. เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนด้านอาชีวศึกษาให้เพิ่มมากขึ้น และตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานและการจ้างงานทั้งภาคธุรกิจบริการ ภาคอุตสาหกรรม และภาคการเกษตร
     3. จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อให้คนทุกช่วงวัย ได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพทั้งด้านภาษา การเปิดโลกทัศน์ เกษตรธรรมชาติ กีฬาสายสัมพันธ์ การฝึกอาชีพ การพัฒนาศักยภาพครู พนักงานราชการ และบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนติดตามและประสานแผนการดำเนิน งานให้บรรลุผลสำเร็จ
     4. ดำเนินการปลูกฝังและสร้างอุดมการณ์ให้นักศึกษา กศน. และประชาชน มีความตระหนักในความเป็นชาติ กระตุ้นให้เกิดความรักชาติ และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจ และความรักความสามัคคีของประชาชนในชาติ สามารถนำไปถ่ายทอดและขยายผลในวงกว้าง
      5. กำหนดให้ กศน. ตำบล เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเชื่อมประสานระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียน เพื่อเพิ่มแหล่งเรียนรู้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยดำเนินการในรูปของคณะกรรมการ กศน. ตำบลในวัด ประกอบไปด้วย คณะกรรมการสถานศึกษา เจ้าอาวาสหรือผู้นำทางศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่น เครือข่ายในชุมชน
      6. พัฒนาคนทุกช่วงวัยโดยส่งเสริม การเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้สามารถมีความรู้และทักษะใหม่ที่สามารถประกอบอาชีพ ได้หลากหลายตามแนวโน้มการจ้างงานในอนาคต ปรับกระบวนการเรียนรู้และหลักสูตร ให้เชื่อมโยงกับภูมิสังคม โดยบูรณาการความรู้และคุณธรรมเข้าด้วยกันเพื่อให้เอื้อต่อ การพัฒนาผู้เรียนรู้ทั้งในด้านความรู้ทักษะการใฝ่เรียนรู้ แก้ปัญหาการรับฟังความเห็นผู้อื่นการมีคุณธรรม จริยธรรมและความเป็นพลเมืองดี โดยเน้นความร่วมมือระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกโรงเรียน




3 ความคิดเห็น:

  1. ดีมากค่ะ นำนโยบายท่านรัฐมนตรี ไปวางแผนการทำงาน จัดทำแผนปฏิบัติการกศน.ตำบลปี2559 ได้เลยนะคะ

    ตอบลบ
  2. ดีมากค่ะ นำนโยบายท่านรัฐมนตรี ไปวางแผนการทำงาน จัดทำแผนปฏิบัติการกศน.ตำบลปี2559 ได้เลยนะคะ

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณมากคะ จะนำนโยบายการทำานไปจัดแผนปฏิบัติการปี 59 คะ

    ตอบลบ